การปรับปรุงการดูแลผู้ป่วยในมุมมองใหม่

ในปัจจุบันเราพูดเกี่ยวกับค่า R และการล็อกดาวน์ในท้องที่ เสมือนว่าเป็นสิ่งที่เราทราบมาตลอดอยู่แล้ว เบื้องหลังหัวข้อข่าวคือระเบิดเวลาด้านการดูแลสูขภาพที่ถูกซ่อนไว้ ผมได้เข้ารับการผ่าตัดเล็กน้อยตอนหน้าร้อน และศัลยแพทย์ด้านหลอดเลือดที่ผ่าตัดผมพูดว่าการผ่าตัดอื่นที่เขาได้ทำในหน้าร้อนนี้คือการตัดอวัยวะ ผู้ป่วยที่มีปัญหาซับซ้อนด้านหลอดเลือดและปัญหาที่เท้าเนื่องจากโรคเบาหวาน แต่ไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ได้มีอาการที่รุนแรงในขณะนี้ ซึ่งมีวิธีแก้ไขเพียงวิธีเดียวคือการตัดเท้า

ในบรรดาผู้ป่วยทั้งหมดนี้ ยังมีผู้ป่วยกลุ่มอื่น ๆ ที่มีภาวะเรื้อรัง ซึ่งจะต้องดิ้นรนเพื่อเข้าถึงการดูแลสุขภาพ โรงพยาบาลบางแห่งรายงานว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนมากถึง 25% อาจไม่เข้ารับการรักษา เนื่องจากกลัวไวรัสโควิด-19 ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ มีผู้ที่เป็นแผลเรื้อรังอยู่ด้วย เป็นที่ชัดเจนว่าผู้ป่วยหลายคนที่มีแผลเรื้อรัง อาจเข้าถึงการดูแลได้น้อยลงในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดหลายคนในสังคมทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ที่เริ่มขึ้นในประเทศส่วนใหญ่ และเนื่องจากการที่โรงพยาบาลพบกับความยากลำบากในการรับมือกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 โอกาสในการเข้ารับการดูแลในสถานพยาบาลจึงค่อนข้างต่ำ 

เราจะช่วยอะไรได้บ้างในขณะที่ผู้ป่วยหลายรายกำลังเผชิญกับการใช้เวลาตามลำพังมากขึ้น เราจะประสานกับผู้ป่วยได้อย่างไรในสถานการณ์ที่อาจมีข้อจำกัด ในฐานะที่เราเป็นจุดเริ่มต้น Molnlycke จึงได้พัฒนา แนวทางดูแลตนเอง สำหรับผู้ป่วย ซึ่งมีเป้าหมายช่วยส่งเสริมการดูแลตนเองอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เมื่อผู้ป่วยและผู้ดูแลเข้าถึงแพทย์ผู้ให้บริการด้านสุขภาพได้น้อยลง แนวทางง่าย ๆ นี้จะช่วยตอบคำถามที่ถามบ่อย และจะกล่าวถึงปัญหาบางอย่างที่ผู้ป่วยอาจพบได้ สามารถดูได้ที่ เว็บไซต์ Molnlycke  Advantage.

ผู้ป่วยที่มีแผลเรื้อรังรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการรักษาของพวกเขา ในปีนี้ Molnlycke ได้ให้การสนับสนุนการพัฒนา เอกสารแสดงฉันทามติ ของ World Union of Wound Healing Societies (WUWHS)  ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับบทบาทของการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยในการปรับการดูแลแผลให้เหมาะสม เอกสารนี้ได้สำรวจคำติชมจากผู้ป่วยที่เข้าร่วมการสนทนากลุ่มในคลินิกการดูแลแผล และได้ให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการสร้างแถลงการณ์แสดงฉันทามติ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกได้พบปะกันเพื่อสำรวจแนวคิดและความคิดเห็นของผู้ป่วย แล้วจึงสร้างแนวทางบางอย่างเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำให้เราในฐานะบุคลาการทางการแพทย์และภาคอุตสาหกรรมเริ่มเห็นความสำคัญของผู้ป่วยอย่างจริงจัง ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลแผล เป็นสิทธิพิเศษอย่างหนึ่งที่ได้ร่วมสร้างเอกสารนี้และรับฟังผู้ป่วยบอกเล่าเรื่องราวของตนเกี่ยวกับผลกระทบของแผลต่อชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ทุกความท้าทายรอบตัวที่ผู้ป่วยโรคดักแด้พบเมื่อต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเปลี่ยนวัสดุทำแผล ไปจนถึงหญิงสูงวัยที่แค่ต้องการให้วัสดุทำแผลติดแน่นอยู่กับซึ่งจะทำให้เธอเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก สำหรับผู้ป่วยหลายคน การรู้สึกมีส่วนร่วมในการดูแลของตน การพูดคุยเกี่ยวกับแผลของตน และการกล่าวว่าแผลเป็นภาวะเรื้อรังสำคัญที่ถูกดูหมิ่นดูแคลนอย่างมาก เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย

มีความคิดริเริ่มอันยิ่งใหญ่บางเรื่องที่ถูกขับดันด้วยความต้องการที่จะให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมมากขึ้น โดยการใช้สมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปเพื่อจัดการให้คำปรึกษาแบบเสมือนจริง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นส่วนสำคัญของความก้าวหน้าในการดูแลผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทที่ผู้ป่วยถูกแยกอย่างโดดเดี่ยว โดยความคิดริเริ่มดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับโลกได้

ดูเหมือนว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะแย่ลงกอนที่จะดีขึ้น ดังนั้นผมจึงคิดว่าเราควรเริ่มเอาใจผู้ป่วยมาใส่ใจเรา เราอยากจะให้การดูแลของเราเป็นอย่างไร เราจะให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมมากขึ้นได้อย่างไร การเข้าถึงการดูแลแผลที่ดีมีความยากลำบากเพียงใด  กลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้สนทนาเกี่ยวกับบางหัวข้อเหล่านี้แล้วใน ช่วง Molnlycke talks และมี consensus ว่าโรคโควิดจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อประชากรผู้ป่วยที่มีแผลเรื้อรัง และเราต้องคาดการณ์และจัดการกับความท้าท้ายเหล่านี้ให้ดีกว่าเดิม Molnlycke Talks Online ครั้งถัดไป ถูกกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 23 พฤศจิกายน 19:00 น. เวลายุโรปกลาง

สุดท้ายนี้ ผมใคร่ขอให้คุณสำรวจ เว็บไซต์ Molnlycke Advantage อย่างเร่งด่วน ที่เว็บไซต์นี้คุณจะพบกับเนื้อหาดี ๆ มากมายที่ให้ความรู้ทางคลินิก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนคุณและผู้ป่วย เราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน และเราอยากช่วยคุณในทุกทางเท่าที่ทำได้ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นทั้งสำหรับคุณและผู้ป่วย